เกร็ดความรู้
การแบ่งปันความรู้สึกดีๆ ต่อกัน - สุไลมาน สาแดะ
เมื่อเราพูดถึงโรงเรียน เราจะคิดได้เป็นอันดับแรกว่าเป็นสถานที่หนึ่งที่ให้ความรู้ ให้เด็กๆ และสังคมใหม่ๆ มีครูอาจารย์คอยให้คำปรึกษาแนะแนวทางในการแก้ปัญหาและคอยสั่งสอนให้คนเป็นคนดีเปรียบเหมือนว่าเป็นพ่อแม่อีกคน โรงเรียนก็เหมือนกับบ้านหลังที่สองของเรา
ผมยังจำก้าวแรกที่ก้าวไปสอนโรงเรียนแห่งนี้ได้ ฉันรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่ได้เข้ามาสอน วันนี้นอกจากความรู้สึกตื่นเต้นดีใจแล้ว ยังมีความรู้สึกอีกความรู้สึกนั้นคือความกลัว กลัวที่จะพบเจอเพื่อนใหม่สังคมใหม่ที่ผมไม่รู้จัก กลัวที่จะต้องรู้จักเพื่อนที่มาจากต่างสถานที่ต่างสถาบัน ถึงโรงเรียนของผมจะไม่ใหญ่โตมากนัก แต่นับได้ว่าเป็นอีกโรงเรียนหนึ่งที่นักเรียนมาจากหลายพื้นที่ โรงเรียนของผมตั้งอยู่ในอำเภอเล็กๆ ห่างจากฝุ่นละอองเสียงควันของเมืองใหญ่ ด้านในมีต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มรื่นปลูกเรียงรายให้ร่มเงาอยู่ตามริมฟุตบาท ทางเดินเข้าโรงเรียนข้างกำแพงมีมุมพักผ่อนเพื่อให้นักเรียนนั่งคุยกัน อ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนกับเพื่อนๆ ห้องเรียนโต๊ะเก้าอี้ ถูกจัดวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม เพราะที่นี่นักเรียนจะเดินเรียน เมื่อเปลี่ยนคาบเรียน ห้องสมุดเป็นอีกมุมที่ผมและเพื่อนครูใช้บริการบ่อยมาก เพราะห้องสมุดจะเป็นที่เงียบสงบมีหนังสือมากมายและยังมีห้องคอมพิวเตอร์ที่จะนำเราไปสู่โลกกว้าง อาจารย์บรรณารักษ์จะคอยช่วยควบคุมดูแล ไม่ให้เสียงดังรบกวนเพื่อนคนอื่น ที่อ่านหนังสือหรือพักผ่อนตามอัธยาศัย แต่มีห้องหนึ่งที่ผมดูแลที่ใช้บริการบ้างตามความจำเป็น แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากใช้บริการ นั่นคือห้องพยาบาล แต่ไม่ใช่ว่าจะรักษาอาการเบื้องต้นได้ทุกคน เพราะห้องพยาบาลที่นี่ ยังขาดแคลนตัวยาหลายอย่างที่จำเป็นสำหรับนักเรียนและคุณครู แต่บางครั้งก็มีหน่วยงานจากข้างนอก ที่ได้เข้ามาช่วยเหลือเรื่องยา ให้พวกเราบ้างตามโอกาส แต่บางที่ผมก็สงสัยว่าจะเป็นยาเหลือใช้หรือเปล่า? นับเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของพวกเราอยู่ไม่น้อย ส่วนการใช้ชีวิตอยู่ภายในรั้วเขียวขาวแห่งนี้ ผมได้รับประสบการณ์มากมายมีทั้งความสุขและความทุกข์ ที่แห่งนี้มีทั้งเพื่อนครูและนักเรียน บ่อยครั้งที่ผมไม่อยากจะมาสอนเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง แต่พอถึงวันที่นักเรียนจบการศึกษาก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมต้องเสียใจ และได้รู้ว่าไม่สามารถย้อนเวลาแห่งความสุขกลับมาได้ เมื่อจบการศึกษานักเรียนแต่ละคนต้องแยกย้ายกันไปเรียนต่างที่ เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ใหญ่ ผมจำได้เสมอว่ามีนักเรียนอีกหลายต่อหลายคนที่ไม่ค่อยชอบเข้าแถวเคารพธงชาติสักเท่าไร ดังนั้นจึงจะมีแถวประจำของเขา คือแถวสาย ที่ต้องเคารพธงชาติต่างหากและก่อนที่จะได้เข้าห้องเจออาจารย์บ่นอีกนาน และกวาดสนามบาส และลานบริเวณหอพักเพื่อเป็นการลงโทษ ผมบอกกับนักเรียนว่าถึงตีก็เจ็บเปล่าๆ แต่ผมเชื่อว่าไม้เรียวของอาจารย์ สามารถสร้างเด็กที่ไม่เอาไหนให้ประสบความสำเร็จมานักต่อนักแล้ว
โรงเรียนเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองถ้าเรารู้จักรักบ้านของเรา เราก็ต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีคุณภาพเพื่อไปพัฒนาบ้านขของเรา ให้เจริญยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่าจากจุดเล็กๆที่เราพัฒนา สามารถเป็นประโยชน์กับคนรุ่นหลังและเป็นประโยชน์กับประเทศชาติของเรามากมาย
ขอแสดงความนับถือ
นายสุไลมาน สาแดะ
ครูส่งเสริมสุขภาพ