เกร็ดความรู้

การใช้มือสัมผัสสามารถวัดไข้ได้จริงหรือ?

 

        การใช้มือสัมผัสบริเวณหน้าผากนั้นสามารถบอกได้เพียงว่าหน้าผากอุ่นกว่าปกติหรือไม่ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามีไข้หรือไม่... ในการวัดอุณหภูมิร่างกายควรวัดโดยใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิตอลเพื่อให้ได้อุณหภูมิของร่างกายที่ถูกต้องแม่นยำ โดยสามารถวัดได้ 3 วิธี ดังนี้

การวัดไข้ทางปาก: ภาพจาก http://www.sciencephoto.com
1. ทางปาก – วางกระเปาะเทอร์โมมิเตอร์ใต้ลิ้นและปิดปาก หายในทางจมูกและใช้ริมฝีปากจับด้ามเทอร์โมมิเตอร์ไว้ อมเทอร์โมมิเตอร์ไว้ในปากเป็นเวลา 3 นาที หรือจนกระทั่งเทอร์โมมิเตอร์ส่งเสียงร้อง

 การวัดไข้ทางรักแร้: ภาพจาก http://www.sciencephoto.com


2. ทางรักแร้ – วางเทอร์โมมิเตอร์ไว้ใต้รักแร้แล้วใช้แขนหนีบไว้เป็นเวลา 5 นาทีก่อนที่จะอ่านค่า


3. ทางทวารหนัก – วิธีนี้ใช้สำหรับเด็กแรกเกิด หรือเด็กเล็กที่ไม่สามารถอมเทอร์โมมิเตอร์ไว้ในปากได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น
* The American Academy of Pediatrics (AAP) ไม่แนะนำให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบปรอทเนื่องจากอาจเกิดการแตกได้ง่าย และสารปรอทเป็นพิษต่อร่างกาย

 

 

 

ข้อควรปฏิบัติในการวัดอุณหภูมิร่างกายเทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้ในการวัดไข้ 3 ชนิด: ภาพจาก http://www.sciencephoto.com

1.    ทำความสะอาดเทอร์โมมิเตอร์ด้วยน้ำสบู่หรือแอลกอฮอล์ ก่อนและหลังใช้งานทุกครั้ง

2.    หลังจากการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือการอาบน้ำอุ่น ควรรออย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนที่จะวัดอุณหภูมิร่างกาย
3.    หลังจากการสูบบุหรี่, รับประทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มร้อน-เย็น ควรรออย่างน้อย 20-30 นาทีก่อนที่จะวัดอุณหภูมิร่างกาย

 

เอกสารอ้างอิง

1. Linda J. Vorvick. Temperature measurement [Online]. 2012 [Cited 2012 May 05]; Available from: URL:http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/003400.htm
2. Mayo Clinical Staff. Fever: First aid [Online]. 2012 [Cited 2012 April 17]; Available from: URL:http://www.mayoclinic.com/health/first-aid-fever/FA00063
3. American Academy of Pediatrics. How to Take a Child's Temperature [Online]. 2012 [Cited 2012 June 29]; Available from: URL:http://www.healthychildren.org/English/health-issues/conditions/fever/pages/How-to-Take-a-Childs-Temperature.aspx?nfstatus=401&nftoken=00000000-0000-0000-0000-000000000000&nfstatusdescription=ERROR%3a+No+local+token
เรียบเรียงโดย ภญ.มนธีรา ยอดวัลลภ

 


ติดต่อเรา | แผนผังเว็ปไซต์
เข้าสู้เว็บไซต์