เกร็ดความรู้
ไข้หวัดใหญ่
รักษาตามอาการ:
- ให้นอนพักผ่อน ดื่มน้ำมากๆ
- ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวบ่อยๆ (สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง วิธีการเช็ดตัว ได้ที่: วิธีการเช็ดตัวเพื่อลดไข้ (Tepid Sponge))
รักษาด้วยยา:
- ยาลดไข้บรรเทาปวด พาราเซตามอล
- ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก เมื่อมีอาการคัดจมูกหรือมีน้ำมูกมาก
- ยาน้ำแก้ไอขับเสมหะสำหรับเด็ก
- หากดื่มน้ำได้น้อย ให้ ผงน้ำตาลเกลือแร่
การส่งต่อโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจเพิ่มเติม
- เมื่อมีอาการมาก ได้แก่ ปวดหัวมาก หนาวสั่นมาก อาเจียน หรือท้องเสียมาก ปวดท้องมาก ซีดเหลือง กินไม่ได้ หรือกินได้น้อยกว่าปกติอย่างชัดเจน หรือมีภาวะขาดน้ำ
- ในช่วยที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ ผู้ป่วยเด็กกลุ่มเสี่ยงที่สงสัยไข้หวัดใหญ่ควรรีบไปรับการรักษา เนื่องจากแพทย์จะพิจารณาให้ยาต้านไวรัส ได้แก่ เด็กอ้วน เด็กมีโรคประจำตัวเป็นหอบหืด โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน หรือ โรคที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น เอดส์ มะเร็ง เอสแอลอี) โรคทาลัสซีเมีย โรคที่มีความผิดปกติทางระบบประสาท โรคลมชัก หรือเด็กที่กำลังกินยาแอสไพรินรักษาโรคอื่น
- มีประวัติสัมผัสสัตว์ปีกที่ป่วยหรือตายภายใน 7 วันก่อนมีไข้ หรือ อยู่ในพื้นที่ที่มีไข้หวัดนกระบาดภายใน 14 วันก่อนมีไข้
- ถ้าอาการไข้หวัดใหญ่ไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงควรส่งต่อ
การส่งต่อโรงพยาบาล ด่วน
- เมื่อมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่ ซึมผิดปกติ ไม่ค่อยรู้สึกตัว แขนขาอ่อนแรง ขากรรไกรแข็ง คอแข็งก้มคอไม่ลง ชัก มีเลือดออก (เช่น เลือดออกตามไรฟัน อาเจียนเป็นเลือด ประจำเดือนมามากกว่าปกติ) หรือช็อก (กระสับกระส่าย เหงื่อออก ตัวเย็น ปัสสาวะออกน้อย) มีอาการหายใจเหนื่อย เจ็บหน้าอก หรือหอบมาก
เอกสารอ้างอิง
1. มูลนิธิเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบยา. คู่มือตู้ยาโรงเรียนและแนวทางการรักษาโรคที่พบบ่อย. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: มูลนิธิเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบยา; พ.ศ. 2553. หน้า 6-7.